ประวัติ ของ เสกสรร ชัยเจริญ

เสกสรร เข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยงานถ่ายแบบ และงานแสดงภาพยนตร์ ต่อมาจึงเข้าสู่วงการเพลง ซึ่งได้มาจากการไปร่วมรายการของบริษัท เจเอสแอล โดยทางบริษัทได้ฟังเสียงร้องก็ชอบใจจึงเรียกเสกสรรเข้าไปพบ เมื่อทางเจเอสแอลก่อตั้งบริษัท "คีตา" ขึ้นมาพอดี เสกสรรจึงได้เป็นนักร้องคนแรกของค่าย และได้ตั้งชื่อในวงการให้ว่าหนุ่มเสก เนื่องจากเสกสรรมีชื่อเล่นว่าหนุ่ม โดยอัลบั้มชุดแรกวางแผงในปี พ.ศ. 2530 ในชื่อว่า ดนตรีออกเดิน มีเพลงเด่นคือ รักเป็นดั่งต้นไม้ และออกอัลบั้มกับคีตาอีก 3 ชุด ก่อนย้ายเข้าสังกัดแกรมมี่ โดยออกอัลบั้มอีกประมาณ 4 ชุด ก่อนออกจากวงการ เพื่อไปทำธุรกิจร้านอาหารและสถานบันเทิง แต่ดำเนินงานได้ระยะหนึ่งต้องเลิกกิจการ

หนุ่มเสกมีผลงานแสดงภาพยนตร์และละครหลายเรื่อง โดยมีผลงานที่สร้างชื่อคือ ละครเรื่อง สุดแต่ใจจะไขว่คว้า ทางช่อง 3

ปัจจุบัน เสกสรรทำงานอยู่ที่โรงละครคิง พาวเวอร์ กับงานเชิดหุ่นละครเล็ก และยังเป็นผู้อำนวยการแสดงโรงละครอักษรา[1] โดยตนเคยประกาศไว้ว่าจะเลิกเข้าวงการบันเทิงอย่างถาวร เนื่องจากเกิดปัญหาเรื่องวงการบันเทิงที่ตนอยู่[2] แต่อย่างไรก็ตามเสกสรรยังรับงานการแสดงบางส่วน[3]

ศาลล้มละลายกลาง สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด

  • เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552

ราชกิจจานุเบกษา ได้ตีพิมพ์ประกาศ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่องคำสั่ง พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดกับ หนุ่มเสก ตามคดีหมายเลขแดงที่ล.9297/2551 กองบังคับคดีล้มละลาย2 ศาลล้มละลายกลางกรมบังคับคดี ทางกระทรวงยุติธรรมประกาศระบุว่า

ด้วยบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้ลูกหนี้ทั้งสองล้มละลาย และศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ให้พิทักษ์ทรัพย์ของ นายเสกสรรชัยเจริญที่๑(หนุ่มเสก)

นางศิริวรรณชัยเจริญ(สิงหพรรคที่๒) ลูกหนี้ไว้เด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 แล้วลูกหนี้ที่1เลขประจำตัวประชาชน3-1201-01545-55-3เกิดเมื่อวันที่4 เมษายน พ.ศ. 2507 อาชีพไม่ปรากฏอาชีพมีภูมิลำเนาอยู่เลขที่45 หมู่ที่8แขวงดอกไม้เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

ลูกหนี้ที่2 เลขประจำตัวประชาชน3-1015-00811-74-6 เกิดเมื่อวันที่12 ตุลาคม พ.ศ. 2507 อาชีพไม่ปรากฏอาชีพมีภูมิลำเนาอยู่เลขที่132/188 หมู่ที่ 2 แขวงทุ่งสองห้องเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานครเพราะฉะนั้นนับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดเป็นต้นไปเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวมีอำนาจตามมาตราที่ 22 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483

ดังต่อไปนี้

  1. จัดการและจำหน่าย ทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือกระทำการที่จำเป็นเพื่อให้กิจการ ของลูกหนี้ที่ค้างอยู่เสร็จสิ้นไป
  2. เก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สินซึ่งจะตกได้แก่ลูกหนี้หรือซึ่งลูกหนี้มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น
  3. ประนีประนอมยอมความหรือฟ้องร้องหรือต่อสู้คดีใดๆเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้อนึ่งเจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายเรื่องนี้จะเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์หรือไม่ก็ตามต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ฝ่ายคำคู่ความสำนักงานเลขานุการกรมกรมบังคับคดีถนนบางขุนนนท์แขวงบางขุนนนท์เขตบางกอกน้อยกรุงเทพมหานครหรือสำนักงานบังคับคดีซึ่งลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ภายในกำหนดเวลา 2 เดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งนี้แต่ถ้าเจ้าหนี้อยู่นอกราชอาณาจักรเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อาจขยายกำหนดเวลาให้อีกไม่เกิน 2 เดือน[4]

ใกล้เคียง

เสกสรรค์ ศุขพิมาย เสกสรร ชัยเจริญ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล เสกสรร จันทร์จิรา เสกสรร อ.ขวัญเมือง เสกสรรค์ ภู่ประดิษฐ์ เสกสรรค์ เสวกสูตร เสกสรร สุทธิจันทร์ เสกสรรค์ ขวัญอ่างทอง การเสกสมรสระหว่างราชวงศ์